--

Angel’s Eye

INTRODUCTION

การจะมีตาสองชั้นที่สวย ต้องเลือกเทคนิคและรูปแบบในการทำตาที่เราชื่นชอบ  Angel’s Eye™ คือการทำตาสองชั้นถาวรแบบไร้รอยแผล เป็นเทคนิคที่ใช้เครื่องเลเซอร์หัวจี้ที่มีขนาดเล็กมาก และเย็บด้วยไหมญี่ปุ่นเส้นเล็กมากทำให้บวมน้อย แทบไม่ต้องพักฟื้น วิธีการเย็บของคุณหมอทำให้ขนตางอนเป็นพิเศษ ซึ่งจะทำให้ตาดูหวานไม่เหมือนใครนั่นเองค่ะ แต่นั่นเป็นเพียงการอธิบายในเชิงเทคนิคและวิธีการทำ ซึ่งจริงๆ แล้วสิ่งที่ Angel’s Eye™ ไม่เหมือนการทำตาสองชั้นแบบทั่วไปเลยก็คือ การทำตาสองชั้นให้ออกมาดูทรงเสน่ห์ มองแล้วดูมีพลังออกมาจากนัยด์ตาที่พร้อมจะสะกดทุกสายตาที่โดนมองด้วย Angel’s Eye™ ซึ่งเป็นที่มาของคำว่า The Emotional Upper Eyelid Surgery

DETAILS PART

ถ้าคุณเป็นหนึ่งในข้อเหล่านี้มากกว่า 2 ข้อ ถือว่าคุณอยู่ในเกณฑ์ที่ต้องพิจารณาการทำตาสองชั้น ก่อนที่จะเกิดปัญหาหางตาตกหรือหนังตาหย่อนในอนาคต หรือปัญหาตาที่เป็นอยู่จะเป็นหนักกว่าเดิมจนอาจจะต้องทำให้เสียค่าใช้จ่ายและเวลาพักฟื้นที่มากกว่าปกติได้

  • กรีดอายไลเนอร์ไม่เห็นเส้น
  • ติดสติ๊กเกอร์ตาสองชั้นไม่อยู่
  • ติดขนตาแล้วดูตลก
  • มีปัญหาด้านการมองเห็น & ใช้สายตา
  • Eyeliner/Mascara เลอะระหว่างวัน
  • ตาบวมตอนตื่นนอน
  • ขนตาทิ่มตา และดัดขนตาไม่สวย
  • โดนแซวประโยคสุดฮิต “นี่ลืมตาแล้วเหรอ”
  • ต้องติดสติ๊กเกอร์กาวสองชั้น
ถ้าคุณเป็นมากกว่า 2 ข้อ

มาทำความรู้จัก ANGEL’S EYE™ กันเลย

Angel’s Eye™ (The Emotional Upper Eyelid Surgery) เป็นที่นิยมมากในกลุ่มเน็ตไอดอล และ New Generation มากมาย เพราะ Life Style การใช้ชีวิตของเหล่า Gen Y, Gen M & Gen Z เปลี่ยนไป และการทำศัลยกรรมไม่ใช่เรื่องที่แปลกอีกต่อไป ดังนั้นการทำศัลยกรรมที่ใช้เวลาพักฟื้นน้อยจึงเป็นที่นิยมเป็นอย่างมาก และการทำตาก็ถือได้ว่าเป็นศัลยกรรมที่ติดอันดับหนึ่งของการทำศัลยกรรมอีกด้วย แต่การทำตาให้ออกมาดีในครั้งแรกนั้นก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเพราะต้องศึกษาหาข้อมูลและเลือกคุณหมอที่มีประสบการณ์ สำหรับใครที่กำลังคิดว่าจะทำตาสองชั้นที่ไหนดี หรือกำลังมองหาคลินิกศัลยกรรมความงามที่เชื่อถือได้ ที่ Dr. Alex Clinic อาจเป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง

เรื่องทำตาสองชั้นต้องยกให้เรา เพราะ Dr. Alex Clinic เราค้นพบแล้วว่า ดวงตาที่สวยนั้นไม่ใช่เพียงแต่มีสองชั้นแต่ต้องเป็นดวงตาที่มีความรู้สึก มองแล้วสามารถสื่ออารมณ์และสะท้อนบุคลิกและความเป็นตัวตนของเราได้ผ่านการสื่อสารจากดวงตา ซึ่งนั่นคือที่มาของประโยคที่ว่า “Eye is the window of your heart” ซึ่งเป็นประโยคยอดฮิตที่สามารถใช้ได้ตลอดกาล แล้ว Angel’s Eye™ คืออะไร? มีแบบไหนบ้าง? ที่ Dr. Alex Clinic เราออกแบบการทำตาสองชั้น Angel’s Eye™ ไว้ทั้งหมด 2 แบบ ซึ่งในแต่ละแบบจะแตกต่างกันที่บุคลิกและ Life Style

Posh Angel’s Eye™

คือการทำตาสองชั้นแบบหวาน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบุคลิกสวยหวาน ดูหรู gram มีระดับ ซึ่งการออกแบบชั้นตาลักษณะนี้ คุณหมอจะไม่ทำชั้นสูงและลึกมาก แต่จะเน้นการออกแบบรูปตาให้ดูชัด หวานและทรงเสน่ห์ ซึ่งเวลามองจะได้ความรู้สึกแบบอ่อนโยนไร้เดียงสา น่าหลงใหลเหมือนดวงตาของเด็กน้อยแต่ยังคงความเป็นธรรมชาติ ตาแบบ Posh สามารถแต่งหน้าและเสริมบุคลิกในลุคไหนก็ได้ โดยเฉพาะ Everyday Look

Hot Angel’s Eye™

คือการทำตาสองชั้นแบบเซ็กซี่เย้ายวน เหมาะสำหรับผู้ที่ต้องการบุคลิกแบบคม เฉี่ยว สาวมั่นสไตล์สาย ฝ. ซึ่งการออกแบบชั้นตาลักษณะนี้ คุณหมอจะเน้นการทำชั้นตาที่คม และชัด แต่จะไม่ได้ทำลึกและสูงมากจนใบหน้าดูแก่เกินไป ชั้นตาแบบ Hot ไม่ใช่ชั้นตาที่ลึกจนเกินไปจนถึงขั้นต้องแต่งตาตลอดเวลาถึงสวย หรือถึงขั้นที่ไม่สามารถเปลือยหน้าสดได้ ชั้นตาแบบ Hot เป็นชั้นตาสาย ฝ. ที่ยังสามารถแต่งหน้าแบบเบาๆ ลุคโตๆ โดยไม่ทิ้งความหวานน่าหลงไหลด้วยเช่นกัน

ทำตาสองชั้นแบบไหนดี?

ส่วนวิธีการทำตาแบบ Posh หรือ Hot จะใช้เทคนิคที่แตกต่างออกไปในแต่ละบุคคล คนไข้สามารถประเมินเทคนิคเบื้องต้นที่จะใช้ในการทำตาสองชั้นได้จากภาพต่อไปนี้ แต่เพื่อความแน่นอนของเทคนิคและราคา คนไข้สามารถสอบถามผู้ให้คำปรึกษาได้ที่ช่องทางการติดต่อของคลินิกทุกช่องทาง เบื้องต้นสำหรับคนไข้ที่มีตาชั้นเดียว, ตาสองชั้นหลบใน คนไข้จะได้รับการแก้ไขชั้นตาด้วยเทคนิคกรีดสั้น ตัดไขมัน ส่วนคนไข้ที่มีปัญหาตาสองชั้นไม่เท่ากัน, หรือกล้ามเนื้อตาตก คุณหมอจะแก้ไขชั้นตาด้วยเทคนิคซ่อมชั้นตาเพิ่ม ส่วนคนไข้ที่มีปัญหาเบ้าตาลึก การตัดไขมันออกจะไม่ใช่วิธีการแก้ปัญหาที่ตรงจุด ที่คลินิกจะใช้วิธีการย้ายไขมันให้ดวงตาดูอิ่มขึ้นแทน และคนไข้ที่มีปัญหาหางตกตกหรือหนังตาหย่อนค่อนข้างเยอะ คุณหมออาจจะพิจารณาเป็นเทคนิคการกรีดยาว ตัดหนังแทน

ด้านบนเป็นเทคนิคที่จะใช้ทำและแก้ไขจุดบกพร่องของตาคนไข้ แต่ถ้าจะให้ตาออกมาแบบ Posh หรือ Hot Angel’s Eye™ นั้น จะอยู่ที่ขั้นตอนการออกแบบชั้นตาของคุณหมอ ชั้นตาโดยทั่วไปมี 2 แบบ ถ้าเป็นแบบ Hot เราจะกรีดแบบ Parallel Crease คือชั้นตาที่สวยแบบอินเตอร์สาย ฝ. เฉี่ยว คม ชั้นตาชัดมีสไตล์แบบชาวยุโรป ส่วนตาแบบ Posh Angel’s Eye คุณหมอจะกรีดแบบ Tepered Crease แบบที่กำลังมาแรงพอๆ กัน จะเป็นชั้นตาที่สวยเป็นธรรมชาติ หรือชั้นตาที่เราเข้าใจกันว่าเป็นการทำ ตาสองชั้นสไตล์เกาหลี หรือตาสองชั้นแบบธรรมชาติแบบสาวเอเชียนั่นเอง ส่วนคนไข้บางคนมีข้อจำกัดของรูปตามากที่จำเป็นจะต้องขยายความยาวของรูปตาทั้งหัวตาและหางตา การผ่าตัดแบบนี้เราเรียกว่า การผ่าตัดแบบ “เปิดหัวตา/เปิดหางตา” (Lateral/) ซึ่งเป็นการผ่าตัดแบบตัดหนังบริเวณหัวตาและหางตาออกเพื่อให้ได้รูปตาที่ยาวขึ้นซึ่งจะนับเป็นอีกหนึ่งหัตถการการผ่าตัดแยกออกมาจากการทำตาสองชั้น คนไข้สามารถเลือกทำพร้อมกับการทำตาสองชั้นได้ หรือสามารถทำทีหลังได้ การกรีดเปิดหัวตาและหางตาจะเหมาะกับคนไข้ที่มีหนังบริเวณหัวตาหรือหางตาปิดเข้ามาในตาขาวหรือใกล้ตาดำมากเกินไป ทำให้ในบางครั้งการทำตาสองชั้นโดยไม่ตัดหนังที่ปิดเข้ามาออกจะทำให้ตาสองชั้นที่ออกแบบมานั้นไม่ได้ช่วยให้ดวงตาดูกลม โตและใหญ่ขึ้นเท่าที่ควร ดังนั้น หากคนไข้ที่มีปัญหาในข้อนี้ สามารถแก้ไขได้โดยการตัดหนังส่วนเกินออกไปเพื่อให้รูปตาดูยาว กลม โตและหวานขึ้น

แล้วตาแบบไหนที่ทำให้ใบหน้าดูแก่?

ตาที่หวาน สวยคือการทำขนาดชั้นตาที่พอดี ไม่สูงหรือต่ำจนเกินไป Posh Angel’ s Eye™ คือการทำขนาดชั้นตาแบบ Low Crease และการทำตาสองชั้นแบบ Hot Angel’s Eye™ คือการกรีดขนาดชั้นตาแบบ Medium to High Crease ส่วนตาที่ดูแก่หรือไม่สามารถเปลือยหน้าสดได้คือการทำตาสองชั้นขนาด Extra High Crease ปัจจัยการทำตาสองชั้นจนทำให้ใบหน้าดูแก่ไม่ได้มีแค่การกรีดขนาดชั้นตาที่ดูสูงเกินไป แต่ขึ้นอยู่กับปริมาณไขมันหรือหนังที่ถูกตัดออกไปด้วย ถ้าตัดไขมันออกเยอะเกินไป จะทำให้เบ้าตาดูลึกขึ้นหรือหนังส่วนเกินที่ถูกตัดออกไปมากกว่าปกติ จะทำให้การหลับตา-ลืมตาดูไม่เป็นธรรมชาติ ซึ่งในบางเคสอาจจะทำให้ถึงขั้นหลับตาไม่สนิทนั่นเอง ซึ่งเป็นปัญหาที่ไม่สามารถแก้ไขได้ แต่ไขมันที่ตัดออกมากเกินไปจนทำให้เบ้าตาดูลึก เราสามารถแก้ไขได้ด้วยการฉีดเติมไขมันกลับเข้าบริเวณดวงตาหรือที่เรียกว่า Blepharoplasty Microautologous Fat Grafting{Hiperlink} นั่นเอง

ทำตาที่ไหนก็ไม่เหมือน Angel’s Eye™?

  • ทำไมหลายๆ คนถึงเทใจและชอบ Angel’s Eye™? เพราะการทำตาสองชั้นและการออกแบบชั้นตาให้ดูทรงเสน่ห์ และมีพลังไม่ใช่ว่าเกิดขึ้นได้เพราะการที่มีตาสองชั้น แต่มันคือศิลปะการออกแบบขนาดชั้นตาและรูปแบบการทำรวมไปถึงเทคนิคที่ใช้ทำให้ผสมผสานออกมาลงตัวให้เป็น Hot หรือ Posh Angel’s Eye™ ซึ่งมีปัจจัยดังนี้
  • การออกแบบความสูงของชั้นตา: ชั้นตาที่ดูเล็กเกินจะทำให้ตาดูเป็นธรรมชาติจนดูแทบไม่ออกว่าทำตาสองชั้นมาจนเกิดความแตกต่าง ชั้นตาที่หนาหรือสูงเกินไปจะทำให้ใบหน้าดูแก่กว่าวัย และต้องแต่งตาตลอดเวลา ไม่สามารถเปลือยหน้าสดได้ ซึ่งชั้นตาที่หวานต้องไม่เล็กเกินไปและลึกหรือสูงเกินไปนั่นเอง
  • การวัดและการออกแบบความงอนของขนตา: ชั้นตาจะหวานหรือไม่หวานนั้นขึ้นอยู่กับการออกแบบรูปแบบความงอนของขนตา ซึ่งความงอนของขนตาจะต้องพอดี ขนตาจะต้องงอนดูเรียงแพสวยเป็นธรรมชาติ ไม่งอนเกินไปจนเหมือนขนตาบรือหรือเบิกขึ้นมากจนเห็นขอบตาบน ซึ่งจะทำให้การแต่งตาหรือการปัดมาสคาร่านั้นดูไม่เป็นธรรมชาติ
  • การออกแบบความยาวของรูปตา: ตาที่หวานจะต้องมีความยาวของรูปตาที่พอดี ซึ่งนั่นหมายถึงหัวตาและหางตาจะต้องไม่ปิดเข้ามาในตาขาวมากเกินไป ตาที่สวยและหวานจะต้องมีลักษณะแบบ Almond Shape การทำตาให้เป็นแบบ Almond Shape เพื่อให้ได้ตาหวานแบบ Hot หรือ Posh Angel’s Eye™ สามารถแก้ไขด้วยวิธีการผ่าตัดแบบเปิดหัวตาและเปิดหางตา (Lateral/)
  • รูปแบบการกรีดชั้นตา : นอกจากการออกแบบความสูงของชั้นตาแล้ว รูปแบบการกรีดชั้นตาก็สำคัญไม่แพ้กัน รูปแบบการกรีดชั้นตามีเพียงสองแบบเท่านั้น คือการกรีดแบบ Tepered และแบบ Parallel รูปแบบการกรีดตาทั้งสองแบบสร้างลำดับความหวานของตาต่างกัน ถ้ากรีดแบบ Tepered คือการกรีดเปิดแผลจากหัวตาชิดชั้นตาและโค้งงอนออกไปจนถึงหางตา (Low Crease) ซึ่งชั้นตาที่ได้ก็จะออกมาดูหวานและเป็นธรรมชาติ (Posh Angel’s Eye™) แต่การกรีดแบบ Parallel คือการกรีดเปิดแผลจากหัวตาให้อยู่เหนือเส้นขอบตาเล็กน้อย (ความสูงของชั้นตาสามารถปรับระดับได้ตามความต้องการของคนไข้ว่าต้องการสูงมากน้อยเท่าไหร่ แต่ก็ไม่ควรหนาเกินเพราะจะทำให้ใบหน้าดูแก่) (Medium to High Crease) ซึ่งการกรีดลักษณะนี้จะทำให้ตาดูคม โตและเป็นชั้นตาแบบสายยุโรป (Hot Angel’s Eye™)
  • รูปแบบการกรีดชั้นตา : นอกจากการออกแบบความสูงของชั้นตาแล้ว รูปแบบการกรีดชั้นตาก็สำคัญไม่แพ้กัน รูปแบบการกรีดชั้นตามีเพียงสองแบบเท่านั้น คือการกรีดแบบ Tepered และแบบ Parallel รูปแบบการกรีดตาทั้งสองแบบสร้างลำดับความหวานของตาต่างกัน ถ้ากรีดแบบ Tepered คือการกรีดเปิดแผลจากหัวตาชิดชั้นตาและโค้งงอนออกไปจนถึงหางตา (Low Crease) ซึ่งชั้นตาที่ได้ก็จะออกมาดูหวานและเป็น
  • การออกแบบเทคนิคการกรีดชั้นตา: การได้ตาที่เหมาะกับลุคของคนไข้คือการเลือกเทคนิคการแก้ไขชั้นตาที่ถูกต้อง เช่น คนไข้ที่มีหางตาตกหรือหนังตาหย่อน จะต้องทำตาสองชั้นด้วยการกรีดแผลยาวแทนการกรีดสั้น ในบางเคสอาจจะต้องมีการตัดหนังร่วมด้วย ส่วนเคสที่ตาสองข้างไม่เท่ากันหรือมีลักษณะของกล้ามเนื้อตาตก (Ptosis) ต้องแก้ไขและออกแบบตาสองชั้นด้วยการกรีดเปิดแผลแบบสั้น และมีเทคนิคซ่อมชั้นตาร่วมด้วยเป็นต้น

ตัวอย่างเคส

วิธีและขั้นตอนการทำตาสองชั้นแบบ “กรีดสั้น” Short Incisional method และ “กรีดยาว” Long Incisional method

    ขั้นตอนการทำ

    เริ่มด้วยการฉีดยาชาหนังตาบน และวาดวัดขนาดชั้นตา จากนั้นกรีดด้วยเลเซอร์เปิดแผลขนาด 8-9 มม. เย็บล็อกชั้นตาด้านในและปิดแผลด้านนอกด้วยไหมขนาดเล็ก สำหรับการกรีดยาวแผลจะมีขนาดประมาณ 1-2 ซม.

    เทคนิคการทำ

    • ตัดไขมันออกสร้างชั้นตาด้านใน
    • ย้ายไขมันไว้ในตำแหน่งที่ทำให้ดวงตามดูอวบอิ่มและสร้างชั้นตาด้านใน
    • ซ่อนกล้ามเนื้อตาด้านในแก้ปัญหาหนังตาหย่อน ชั้นตาไม่เท่ากันและสร้างชั้นตาด้านใน
    • ฉีดไขมันเข้าที่ตาโดยใช้ปืนฉีดไขมัน ฉีดไขมันที่ได้จากหน้าท้องเหมาะสำหรับผู้ที่มีเบ้าตาลึก

    รายละเอียดการทำ

    • ใช้เครื่องจิ้มมาตรฐานไม่เป็นแผลนูน ไม่ช้ำ บวมน้อย
    • ใช้เวลาทำ 20-30 นาทีสำหรับการกรีดสั้น และ 45 นาทีถึง 1 ชั่วโมงสำหรับการกรีดยาว
    • 5 วันตัดไหมสำหรับการกรีดสั้นและ 7 วันตัดไหมสำหรับการกรีดยาว
    • ติดตามผลตามผล 5 วัน/14 วัน/1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน สำหรับการกรีดสั้นและ 7 วัน/14 วัน/1 เดือน 2 เดือน 3 เดือน สำหรับการกรีดยาว
    • ใช้เวลาพักฟื้น 3-5 วันสำหรับการกรีดสั้นและ 10- 14 วันสำหรับการกรีดยาว

    หลายๆ คนสงสัยว่ากรีดตาสองชั้นแบบเย็บสามจุดดีหรือไม่?

    การทำตาสองชั้นแบบเลเซอร์และการเย็บสามจุดนั้นใช้เวลาในการทำและเวลาในการพักฟื้นไม่ต่างกันมากนัก ซึ่งการทำตาสองชั้นแบบถาวรหรือการผ่าตัดกรีดโดยใช้เครื่องเลเซอร์สามารถแก้ปัญหาตาได้ทุกรูปแบบแต่การเย็บ 3 จุดนั้น ไม่สามารถตัดไขมันและไม่สามารถแก้ไขปัญหาเบ้าตาลึกหนังตาหย่อน หางตาตก กล้ามเนื้อตาตก และชั้นตาไม่เท่ากันได้ และเมื่อเวลาผ่านไป 3-6 เดือนหลังจากทำตาสองชั้นแบบเย็บสามจุด ชั้นตาจะตกลงมาคล้ายเดิมหรือไม่ต่างจากเดิมมาก ซึ่งถือว่าเป็นการทำตาสองชั้นแบบไม่ถาวร ส่วนการทำตาสองชั้นแบบถาวรหรือการผ่าตัดกรีดโดยใช้เครื่องเลเซอร์นั้นอยู่ได้ประมาณ 20-30 ปีขึ้นไปซึ่งชั้นตาจะมีการเปลี่ยนรูปตามอายุและความหย่อนคล้อยของผิวหนังธรรมชาติ ซึ่งจะจะต้องทำให้คนไข้ต้องพิจารณาการตัดหนังส่วนเกินในอนาคตแต่ชั้นตาไม่ได้หายไปนั่นเอง

    การดูแลตัวเองก่อนและหลังทำตา

    ก่อนการผ่าตัด:

    • ไม่จำเป็นต้องงดอาหาร
    • ลดยาที่ลดการแข็งตัวของเลือด เช่น ยาแอสไพริน ควรหยุดรับประทาน 7-10 วันเพราะอาจเป็นเหตุให้เลือดออกง่ายและออกมากกว่าปกติ งดสมุนไพรก่อนผ่าตัด
    • งดใช้เครื่องสำอางบริเวณใบหน้า โดยเฉพาะบริเวณตาก่อนทำการผ่าตัด
    • สระผมให้สะอาด เพราะอาจสระผมไม่สะดวกในวันแรก ๆ หลังจากผ่าตัด
    • จัดเวลาพักผ่อนสำหรับพักฟื้น อย่างน้อย 3-5 วันสำหรับการกรีดสันและ 7-10 วันสำหรับการกรีดยาว

    หลังการผ่าตัด:

    • รับประทานยาตามแพทย์สั่งให้ครบ 7 วัน ยาแก้ปวดทานเฉพาะเวลาปวด ยาฆ่าเชื้อและลดบวมทานจนหมด
    • นอนยกศีรษะให้อยู่สูงกว่าลำดตัว โดยใช้หมอนรองคอเพื่อลดอาการบวนประมาณ 2-3 วันแรกหลังผ่าตัด
    • ประคบเย็น 3 วันแรก บริเวณแผลอย่างสม่ำเสมอเพื่อลดอาการบวมและอาการปวด วันที่ 4 และ 5 ประคบอุ่นเพื่อลดอาการเลือดคั่งบริเวณใต้ผิวหนัง
    • ห้ามทำความสะอาดแผลหรือบริเวณแผล ซึ่งแผลอาจมีเลือดซึมออกมาได้ภายใน 1-2 วันแรกให้ปล่อยทิ้งไว้แบบนั้นจนถึงวันตัดไหม
    • 2-3 สัปดาห์แรกหลังผ่าตัด ควรสวมแว่นกันแดดทุกครั้งก่อนออกจากบ้าน เพื่อป้องกันแสงแดดสะสม
    • ในช่วยอาทิตย์แรกคนไข้ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมทุกอย่างที่ต้องใช้สายตา เช่น การอ่านหนังสือ ดูทีวี ใช้คอมพิวเตอร์และการใส่คอนแทคเลนส์เนื่องจากจะทำให้ตาแห้งได้
    • หลีกเลี่ยงอย่าให้แผลหรือบริเวณรอบแผลโดนน้ำภายใน 7-10 วันแรก ควรทำความสะอาดหน้าแบบใช้สำลีเช็ดหน้าไปก่อน
    • ภายในเดือนแรกหลังผ่าตัด ควรหลีกเลี่ยงกิจกรรมที่มีผลต่อความดันลูกตาได้แก่ การเล่นกีฬาทุกประเภท การก้ม การยกของหนัก
    • หลีกเลี่ยงการดื่มแอลกอฮอลล์และสูบบุหรี่ 2 สัปดาห์แรกเพรามีผลทำให้แผลหายช้า
    • งดอาหารเสริมทุกชนิด 2 สัปดาห์หลังผ่าตัด
    • งดทาครีมบำรุง ครีมรักษารอยแผลเป็นหรือครีมทุกชนิดบริเวณแผลหลังทำ 6 เดือน
    • ลดอาหารประเภทโปรตีน เช่น ไก่ ไข่ อาหารหมักดอง อาหารทะเลประมาณ 7-14 วัน
    • ห้ามจับหรือยุ่งกับแผล หากมีอาการคันที่แผลเพราะไหมมีขนาดเล็กไหมอาจหลุดและชั้นตาอาจจะหลุดได้

    ดูรีวิวทำตา Angel’s Eye™

     

    *Angel’s Eye (Alternative and Generative Evolved Laboratory’s Eye Youth Equation)