--
Love Handles คืออะไร

Love Handles คือ ห่วงยางรอบเอว ห่วงยางที่เอว ไขมันห่วงยาง หรือเรียกอีกอย่างว่าเอวปลิ้นเป็นเรื่องที่ยากที่สุดเรื่องหนึ่ง สร้างความท้อใจกับทุกคนที่ลดน้ำหนัก เพราะน้ำหนักไม่ใช่เรื่องยากเกินไป แค่ทำให้พลังงานที่ใช้มากกว่าที่ทานเข้าไป ถึงจุดหนึ่งน้ำหนักจะลดได้เอง ร่างกายจะค่อยๆ ปรับสภาพลดไขมันแต่ละส่วนในร่างกายลงเรื่อยๆ ไล่จากปลายมือ ปลายเท้า ในหน้า คางหน้าอก ลงมาจนมาถึงจุดที่ยากสุด คือ “ห่วงยางรอบเอว” หรือที่ฝรั่งเรียกว่า Love Handles ที่อยู่รอบเอว ซึ่งจะไม่หายไปง่ายๆ เป็นไขมันส่วนเกินที่บดบังเอวของคุณให้ดูอ้วน จนหลายคนหมดกำลังใจ

Love Handles อยู่ตรงไหน

เปรียนเทียบหุ่น

Love Handles จะอยู่รอบเอว ข้างเอว ซึ่งจะไม่หายไปง่ายๆ เป็นไขมันส่วนเกินที่บดบังเอวของคุณให้ดูอ้วน เพราะเกิดจากการสะสมไขมัน

Love Handles เกิดจากอะไร

เอวห่วงยางเกิดจากอะไร

Love Handles หรือ ห่วงยางรอบเอว คือ ไขมันใต้ชั้นผิวหนัง (Subcutaneous Fat) ที่เกิดการสะสมมาก ๆ จนทำให้ปลิ้นออกมาด้านข้าง เมื่อร่างกายได้รับไขมันเข้ามาในปริมาณมากจนไม่สามารถเผาผลาญได้ทัน ไขมันก็จะเข้ามาสะสมอยู่ภายในช่องท้องเป็นอันดับแรก และอันดับต่อมาก็จะเป็นชั้นใต้ผิวหนัง ซึ่งก็คือชั้นที่เรากำลังพูดถึงอยู่นี่เอง ภายในชั้นไขมันใต้ผิวหนัง สามารถแบ่งออกได้มากถึง 3 ชั้น ซึ่งก็คือ

  • ชั้นไขมันใต้ผิวหนังด้านบน เป็นชั้นไขมันที่อยู่ติดผิวหนังมากที่สุด (หากเกิดอุบัติเหตุที่กรีดลงผิวหนังเข้าไปลึก จะเห็นไขมันสีขาวซึ่งก็คือไขมันใต้ผิวหนังด้านบนสุด) หน้าที่ของมัน คือการห่อหุ้มต่อมเหงื่อและรากขน โดยจะมีเส้นเลือดและเส้นประสาทแทรกอยู่ในไขมันชั้นนี้และทำหน้าที่หล่อเลี้ยงต่อมต่าง ๆ
  • ชั้นไขมันใต้ผิวหนังด้านกลาง มักจะพบเจออยู่ตามแขน ขา หรือส่วนที่ผิวหนังหนา ๆ แต่ถ้าหากเป็นผิวบาง เช่น หนังตา สันจมูก จะไม่มีชั้นไขมันใต้ผิวหนังในชั้นนี้
  • ชั้นไขมันใต้ผิวหนังด้านล่าง จะรองรับการกระแทกต่าง ๆ โดยชั้นนี้จะมีลักษณะเป็นพังผืด และชั้นไขมันที่จับตัวกันเป็นก้อนกลม ถ้าหากมีมากเกินไปก็จะทำให้เกิด “เซลลูไลท์” หรือลักษณะผิวแบบเปลือกส้ม มักจะพบได้ตามต้นขา และหน้าท้อง

สาเหตุที่ทำให้มี Love Handles นั้นก็เพราะส่วนใหญ่เกิดจากพฤติกรรมการใช้ชีวิตของเราล้วน ๆ ทั้งการกินอาหารแบบตามใจปาก ชื่นชอบการกินของหวาน เค้ก ชาไข่มุกเป็นประจำ กินแต่ของทอดของมัน ไม่มีการควบคุมประเภทของอาหาร หรือปริมาณอาหาร กินจุกจิก กินทั้งวัน รวมไปถึงการที่เราไม่ค่อยขยับร่างกายบ่อย ๆ ด้วย

ปัญหาของ Love Handles

ปัญหาของเอวห่วงยาง

  • นั่งแล้วห่วงยางรอบเอวปลิ้นชัด
  • ไม่มีส่วนเว้าส่วนโค้ง เอวไม่เอส
  • ขนาดของ Size เสื้อผ้าใหญ่ขึ้น
  • แต่งตัวด้วยชุดเก่าตัวโปรดไม่ได้
  • ต้องเปลี่ยน Size กางเกงตลอด
  • บั่นทอนความมั่นใจในรูปร่าง
  • ใส่เสื้อผ้าไม่สวย ดูมีพุงปลิ้นออกมา
Love Handles อันตรายไหม?

Love Handles คือ คือไขมันที่สะสมและแทรกซึมอยู่บริเวณอวัยวะต่าง ๆ ถือเป็นไขมันที่อันตรายและไม่ควรมองข้าม ปัจจุบันพบว่ามีอัตราคนไข้ที่เกิดภาวะไขมันในช่องท้องมากขึ้นหรือไขมันใต้ชั้นผิว ทั้งในผู้ชายและผู้หญิง รวมไปถึงในกลุ่มวัยรุ่น ถึงวัยกลางคน เพราะส่วนใหญ่จะนิยมรับประทานอาหารที่มีไขมันสูง อาหารแปรรูป ของหวาน ชานมไข่มุก อีกทั้งยังขาดการออกกำลังกาย เคลื่อนไหวร่างกายน้อยลง จึงนำไปสู่ไขมันสะสมในช่องท้อง ทำให้ร่างกายเกิดภาวะดื้ออินซูลิน จนก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพและโรคภัยอื่น ๆ ตามมาได้ครับ

ไขมันช่องท้อง (visceral fat) คือ ไขมันที่สะสมอยู่ในร่างกายที่เกิดจากร่างกายเผาผลาญไม่หมด ไขมันชนิดนี้จะอยู่ลึกกว่าชั้นผิวหนังและชั้นกล้ามเนื้อ โดยจะสะสมอยู่ตามอวัยวะภายใน เช่น ตับ ลำไส้เล็ก กระเพาะอาหาร รวมไปถึงแทรกซึมอยู่ตามกล้ามเนื้อหน้าท้อง แต่ที่พบได้บ่อยคือตับครับ เพราะไขมันชนิดนี้จะอยู่ใกล้ตับมากที่สุด และหากมีการสะสมของไขมันมากขึ้นเรื่อย ๆ ก็จะมีความแข็งตัวมากขึ้นจนดันให้หน้าท้องป่องและยื่นออกมา หรือที่เราเรียกกันว่าภาวะอ้วนลงพุง ซึ่งสามารถพบได้ทั้งในคนผอมและคนที่มีน้ำหนักเกิน

ภาพเปรียบเทียบไขมัน

วิธีลดห่วงยางรอบเอว

ไขมันในช่องท้องเป็นชั้นไขมันที่ลดได้ยากกับไขมันใต้ชั้นผิว และต้องใช้ระยะเวลาในการเห็นผล แต่ก็ใช่ว่าจะลดไม่ได้เลย หลัก ๆ เริ่มจากการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมการใช้ชีวิตประจำวัน ดังนี้

ปรับพฤติกรรมการกิน

อาหารการกินเป็นอะไรที่สำคัญและจำเป็นมาก แต่ถ้าอยากลดห่วงยางหน้าท้อง หรือ Love Handles นี้จริง ๆ ต้องปรับพฤติกรรมการกินอาหารด้วยนะครับ แน่นอนว่ามันจะยากมาก ๆ ในช่วงแรก เพราะเรากินของที่ชอบมาตลอด อยู่ ๆ วันนึง ต้องตัดสินใจลดการกิน หรือเลิกกินมันไปก็คงจะเศร้าใจไม่มากก็น้อยนะครับ ทั้งนี้ ลองดูนะครับว่าตัวเราสามารถควบคุมอาหาร หรือปรับการกินนี้ได้ด้วยตัวเองไหม  ต้องมีวินัยจริง ๆ รึเปล่า

  • กินอาหารในปริมาณที่พอดี
  • กินอาหารอิ่มแล้วหยุด ไม่ยัด
  • ลดการกินขนมหวาน ของหวาน
  • ลดการกินของทอด ของมัน
  • เน้นอาหารต้ม หรืออาหารนึ่ง
  • ลดการกินแป้งขัดขาว ไขมันทรานส์
  • ลดการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์
  • กินอาหารให้ครบ 5 หมู่

เปลี่ยนการกิน

ลดความเครียดลงบ้าง

ความรู้สึกมีผลต่อการทานอาหารเสมอ แต่ความรู้สึกที่ไม่ควรมีมากที่สุด คือ “ความเครียด” เพราะไม่ช่วยแก้ปัญหา แล้วยังไม่มีผลดีกับร่างกาย สร้างภาระให้กับร่างกายมากกว่าที่จะมีผลดี บางคนอาจถึงขั้นซึมเศร้า หลายคนเครียดจนเป็นเรื่องปกติ เก็บเรื่องไม่เป็นเรื่องมาคิดแบบไม่ทันรู้ตัว ทั้งปัญหาเรื่องงาน การเรียน ความรัก ซึ่งความเครียดไม่ได้แก้ปัญหาอะไร เช่น รถติด คุณเครียดไปก็ไม่ได้ช่วยให้รถเคลื่อนที่เร็วขึ้น แล้วยังอาจทำให้เกิดอุบัติเหตุได้ ระหว่างเครียดนั้นยังกระตุ้นให้ฮอร์โมนบางตัวทำงาน ซึ่งเป็นอุปสรรคกับการลดน้ำหนัก ความเครียด ส่งผลโดยตรงกับฮอร์โมน คอร์ติซอล ซึ่งกระตุ้นให้ร่างกายสร้างระบบต้านอินซูลินขึ้นมา ส่งผลให้เกิดความต้องการความหวานและอาหารไขมันสูงได้ ซึ่งส่งผลต่อการเพิ่มน้ำหนัก จะพบระดับฮอร์โมน คอร์ติซอล สูงมากในคนอ้วน เจาะรายไหนรายนั้นสูงหมดเลย การลดความเครียดทำได้หลายวิธี ทั้งฝึกสมาธิ โยคะ ออกกำลังกายลดความเครียด ปล่อยวางกับปัญหา ซึ่งจะช่วยลดน้ำหนักและไขมันสะสมไปได้อีกทาง และควรพักผ่อนให้เพียงพอ

ออกกำลังกายทุกส่วนพร้อมกัน อย่าลดเอวแล้วทำแต่เอว

ลดส่วนไหน ต้องเน้นออกกำลังกายส่วนนั้นเยอะๆ เป็นความเชื่อที่ผิดและฝังในความคิดกันมานาน ซึ่งไขมันไม่สามารถลดไปได้แม้จะออกกำลังกายส่วนนั้นมาก ไขมันถูกสร้างขึ้นเพื่อให้อวัยวะของร่างกายได้รับความอบอุ่นโดยเฉพาะอวัยวะภายใน ถ้าไม่มีกล้ามเนื้อมาป้องกัน ไขมันก็จะสะสมหุ้มตรงนั้นมากเป็นพิเศษ เป็นกลไกตามธรรมชาติอยู่แล้ว

ผลการเน้นออกกำลังกายแค่เฉพาะส่วน ทำให้เหนื่อยล้าจนไม่อยากทำอย่างอื่นต่อ อย่าง ลดพุง ซิทอัพทุกวัน 100 ครั้ง มีแต่ทำให้เจ็บเอว ปวดหลังมากขึ้น ร่างกายเกิดการต่อต้านการออกกำลังกาย หลายคนเลิกออกกำลังกายต่อเพราะเหตุนี้ บางคนกลับมาอ้วนมากขึ้นได้อีก เพราะรู้สึกเครียดจากการออกกำลังกายไม่ได้ผล ห่วงยางรอบเอว ไม่หายไป

การออกกำลังกายเพื่อลดน้ำหนัก ควรทำทุกส่วนพร้อมกัน โดยเฉพาะกล้ามเนื้อมัดใหญ่ เช่น กล้ามเนื้อก้น กล้ามเนื้อโคนขาที่ใช้พลังงานสูง การออกกำลังกายแบบคาร์ดิโอ ควรมีวันพักเพื่อให้ฟื้นฟูและสลับกับการเล่นเหวท เพื่อกระตุ้นการเผาพลาญต่อเนื่องตลอดวัน การมีกล้ามเนื้อน้อยเพราะอดอาหารมากเกินไปเนื่องจากอยากให้เอวลดและทุ่มเทกับคาร์ดอโอมาก จนทำให้พลังงานไม่พอ ร่างกายสลายกล้ามเนื้อมาใช้งานได้ ระยะยาวอัตราการเผาผลาญก็ทยอยต่ำลง

เปลี่ยนมาออกกำลังกายช่วงเช้าแทนเพื่อ ลดห่วงยางรอบเอว
  • การออกกำลังกายในตอนเช้าจะทำให้มีการเผาผลาญไขมันมากกว่าการออกกำลังกายในตอนเย็น ทั้งนี้เนื่องจากภายหลังจากการตื่นนอน เราได้รับการงดอาหารมาอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ปริมาณคาร์โบไฮเดรต (ไกลโคเจน) ในร่างกายที่สะสมจะลดลงไปอย่างมาก ทำให้ไขมันจึงเป็นแหล่งพลังงานที่ใช้ในปริมาณมาก
  • การออกกำลังกายหลังจากการงดอาหาร (overnight-fasted exercise) พบว่าร่างกายจะเพิ่มประสิทธิภาพของการใช้ไขมันอย่างมาก เมื่อเทียบกับการออกกำลังกายในตอนเย็นหลังจากกินอาหารกลางวันไปแล้ว ในกรณีหลังนี้ร่างกายจะมีการใช้พลังงานจากคาร์โบไฮเดรตเป็นหลัก ทำให้ถึงแม้จะออกกำลังในปริมาณที่เท่ากัน เช่นวิ่ง 1 ชั่วโมงเท่ากัน แต่การเผาผลาญไขมันตอนเย็นจะน้อยกว่าตอนเช้า
  • มีการปรับสมดุลการใช้พลังงาน การออกกำลังกายในตอนเช้าทำให้มีการปรับสมดุลของการใช้พลังงานโดยเพิ่มความสมดุลของการใช้ไขมันซึ่งมากถึง 2 เท่าตลอดทั้งวัน ทำให้ร่างกายมีความหิวที่ลดลงและมีความต้องการในการกินที่ลดลงด้วย
  • การเปลี่ยนแปลงเมตาบอลิสซึมของกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อไขมันและการไหลเวียน. พบมีการเปลี่ยนแปลงหลายอย่างในกล้ามเนื้อ เนื้อเยื่อไขมันและในหลอดเลือด ในกล้ามเนื้อจะเพิ่มความสามารถในการใช้ไขมันมากขึ้น เมื่อกล้ามเนื้อใช้ไขมันมากขึ้น กรดไขมันในเลือดก็ลดลง เซลล์ไขมันก็จะมีการสลายไขมันและปล่อยไขมันเข้าสู่กระแสเลือดเพิ่มขึ้น จึงทำให้ไขมันสะสมในร่างกายลดลง ห่วงยางรอบเอวลดลง
  • มีการเพิ่มขึ้นของตัวนำน้ำตาลเข้าสู่เซลกล้ามเนื้อ ซึ่งเป็นสาเหตุในการเกิดภาวะต้านทานอินซูลิน (insulin resistance) เมื่อการต่อต้านอินซูลินลดลง ก็ไม่ต้องใช้อินซูลินมาก การเก็บและแปลงคาร์โบไฮเตรดเพื่อเป็นไขมันในร่างกายก็ลดลงไปด้วยเช่นกัน
  • บรรยากาศในตอนเช้า เป็นของวิเศษของธรรมชาติที่มอบให้กับสิ่งมีชีวิตในโลกนี้ อุณหภูมิในตอนเช้าจะต่ำที่สุดของวัน  อากาศที่ไม่ร้อนจนเกินไปทำให้ร่างกายสามารถระบายความร้อนจากตัวเราได้และไม่เป็นลมแดดซึ่งอันตรายถึงชีวิตได้

การผ่าตัดหนังหน้าท้อง

การผ่าตัดหนังหน้าท้อง (Tummy Tuck) จะเหมาะสำหรับเคสที่มีผิวหนังหย่อนคล้อย ผิวย้วยลงมามาก ๆ ร่วมกับห่วงยางรอบเอว ซึ่งวิธีนี้จะเป็นการลดพื้นที่ของหน้าท้องไปหายไปแบบถาวร ห่วงยางรอบเอวหายไปในทันที หรือลดน้ำหนักแบบไวเกินไปจนผิวย้วยไม่กระชับ เหมาะมาก ๆ กับเคสคุณแม่หลังคลอด สำหรับใครที่อยากผ่าตัดหนังหน้าท้องต้องเข้าไปให้แพทย์ประเมินให้ก่อนนะครับ เพราะวิธีนี้ไม่ได้เหมาะกับทุกคน และคนไข้จะต้องโอเคกับการที่จะมีแผลกรีดยาวใต้หน้าท้องด้วยครับ

การดูดไขมันลดสัดส่วน

อย่างไรก็ตาม แม้ว่าน้ำหนักตัวจะมาอยู่ในช่วงมาตรฐานหรือช่วงบนร่างกายเริ่มซูบแล้ว บางคนยังมีพุงและห่วงยางได้ จากปัจจัยหลายอย่างทั้งสภาพร่างกาย อายุ หรือ ต้องใช้เวลาในการปรับสภาพร่างกายไปอีกสักระยะ ซึ่งการลดน้ำหนักไม่สามารถปรับรูปร่างได้โดยสมบูรณ์

เป็นเหตุผลที่ “ศัลยกรรมปรับรูปร่าง” เข้ามามีบทบาทในการแก้ปัญหาและได้รับความนิยมในหลายประเทศ ถ้าต้องการ ลดห่วงยางรอบๆเอว แบบรวดเร็วเพื่อให้ใส่ชุดแล้วสวยขึ้นแบบทันใจ อาจพิจารณาทางเลือกอื่นที่กำจัดไขมันที่พุงโดยตรง อย่าง ดูดไขมันเอว ก็ได้เช่นกัน ซึ่งสามารถเอาเซลล์ส่วนเกินออกได้ แก้ไขปัญหาอย่างตรงจุด ทาง Dr.Alex Clinic แนะนำการดูดไขมันด้วยเทคนิค BodyTite กับ J-Plasma

สรุป

สำหรับใครที่คิดว่าตัวเองมี Love Handles หรือห่วงยางรอบเอว แต่ไม่แน่ใจว่าตัวเองเหมาะกับการลดห่วงยางรอบเอวด้วยวิธีไหน ลองเข้ามาปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญที่ Dr.Alex Clinic ก่อนได้นะครับ ทางคลินิกมีแพทย์ดูดไขมันเฉพาะทาง, ผู้เชี่ยวชาญด้านการปรับรูปร่าง, ผู้เชี่ยวชาญด้านโภชนาการ และศัลยแพทย์ตกแต่งเฉพาะทางเลยล่ะครับ ปรึกษาก่อนได้ ไม่เสียค่าใช้จ่ายใด ๆ ครับ

Leave a reply