ปัจจุบันนี้การศัลยกรรมแก้จุดบกพร่องของหน้าผากได้รับความนิยมเป็นอย่างมาก บ้างอยากทำเพื่อเสริมโหงวเฮ้งรับโชคลาภวาสนา หรือต้องการปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์หน้าผากให้ออกมาสวยงามโค้งนูน รับกับรูปหน้ามากขึ้น การเสริมหน้าผากสาว ๆ เลือกทำได้หลายวิธี แต่อย่างไรก็ดีก่อนจะทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากจำเป็นต้องใส่ใจศึกษาหาข้อมูลก่อนทำอย่างละเอียด สำหรับคนไหนที่กำลังคิดตัดสินใจทำ เรามาลองศึกษาข้อมูลกับ 8 เรื่องควรรู้! ก่อนตัดสินใจทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากกันก่อนดีกว่าค่ะ
1.หน้าผากของเรามีปัญหามากน้อยแค่ไหน
โดยปกติแล้ว การที่ใบหน้าของเราเรียวสวยได้รูปมีสัดส่วนที่เหมาะสม อาจไม่จำเป็นต้องเสริมก็ได้ แต่ถ้ามีส่วนใดส่วนหนึ่งบกพร่องไม่ลงตัวเข้ากับรูปหน้า อย่างเช่น ผู้ที่มีปัญหาหน้าผากไม่เรียบเนียน หน้าผากกว้าง แบนหรือแคบเกินไปก็เหมาะสมกับการพิจารณาทำศัลยกรรมหน้าผากได้ค่ะ ซึ่งการศัลยกรรมจะช่วยปรับรูปหน้าโดยรวมให้สวยมีมิติมากขึ้นได้ นอกจากนี้ยังช่วยแก้ปัญหาริ้วรอยเหี่ยวย่นบนหน้าผากได้อีกด้วย
2. เลือกทำกับแพทย์ที่เชี่ยวชาญ
การทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก ควรเลือกทำกับแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเท่านั้น เข้าไปปรึกษาแพทย์ศัลยกรรมก่อน ถามคำถามที่เราสงสัยหรือเรื่องที่กังวล แพทย์จะได้ทำการวิเคราะห์รูปหน้าประเมินว่าควรแก้ไขลักษณะหน้าผากของเราด้วยวิธีไหน และก่อนทำหลังทำศัลยกรรมควรมีการเตรียมตัวก่อนทำอย่างไรบ้าง อย่าลืมถามเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำและบริการหลังทำด้วยนะคะ ทั้งหมดนี้เราควรสอบถามข้อมูลโดยละเอียด และที่สำคัญควรแจ้งประวัติว่ามีปัญหาสุขภาพหรือโรคประจำตัวอะไรบ้าง รวมถึงการแพ้ยาแพ้อาหารหรือการแพ้สารชนิดใดด้วยนะคะ
3. เลือกสถานพยาบาลที่ได้มาตรฐาน
เลือกหมอกันดีแล้ว อย่าลืมดูเรื่องสิ่งแวดล้อมด้วยนะจ้ะ สถานพยาบาลเป็นเรื่องสำคัญมากๆ รองจากตัวคุณหมอเลย เพราะสถานพยาบาลไม่สะอาด เครื่องมือไม่ทันสมัย ไร้มาตรฐานโอกาสที่ทำแล้วจะติดเชื้อสูงมากหรืออาจจะส่งผลกระทบที่ไม่ดีในระยะยาวได้ ดังนั้นกันไว้ก่อนดีกว่าค่ะ
4. เสริมหน้าผาก สามารถทำได้ด้วยวิธีใดบ้าง?
การศัลยกรรมเสริมหน้าผาก มีด้วยกันหลายวิธี แต่วิธีที่เราแนะนำนี้ จะเป็นวิธีที่ได้รับความนิยมและมีความปลอดภัยสูงค่ะ มาดูกันเลยว่ามีอะไรบ้าง
- เสริมหน้าผากโดยการฉีดฟิลเลอร์
เป็นการฉีดสารเติมเต็มเข้าไปบริเวณหน้าผาก เพราะจะช่วยเติมแต่งรูปของหน้าผากที่ไม่สวยงามให้ดูดีและนูนสวยได้รูปมากขึ้น และยังช่วย Lift ริ้วรอยบนหน้าผาก ทำให้ผิวเต่งตึงอ่อนวัย วิธีทำได้ง่าย ไม่เจ็บตัว โอกาสบวมช้ำน้อยมากๆเมื่อเทียบกับวิธีและแก้ไขได้ง่าย
- เสริมหน้าผากโดยการฉีดไขมัน
เป็นวิธีการดูดเอาไขมันส่วนเกินส่วนที่ไม่ต้องการในร่างกายของเรา เช่น ไขมันหน้าท้อง ไขมันสะโพก ไขมันต้นขา เป็นต้น นำมาฉีดกลับเข้าไปยังบริเวณหน้าผาก ก่อนนำไปฉีดควรเอาไขมันมาแยกเซลล์ไขมันแล้วฉีดเข้าไป ซึ่งการฉีดไขมันมีข้อดีคือเป็นเซลไขมันของเราเอง ไม่มีอาการแพ้เกิดขึ้นแน่นอนและที่สำคัญสามารถเติมได้ในปริมาณมากๆ แถมยังดูเป็นธรรมชาติอีกด้วย
- เสริมหน้าผากโดยการผ่าตัดเสริมซิลิโคน
เป็นวิธีการผ่าตัดเพื่อเสริมซิลิโคนเข้าไปยังหน้าผาก ทำให้เกิดความพอดีเข้ากันกับรูปหน้า ซึ่งซิลิโคนที่ใช้ในการผ่าตัดมีสองแบบนั้นก็คือซิลิโคนการสั่งทำขึ้นเฉพาะ Custom-made และซิลิโคนแบบสำเร็จรูป Ready-made (ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่บทความ ซิลิโคนหน้าผากมีกี่ประเภท) ข้อดีจากการผ่าตัดเสริมหน้าผากด้วยการใส่ซิลิโคนนั้นจะทำให้ผู้ทำมีหน้าผากที่สวย สามารถเลือกความนูนได้เท่าที่ต้องการ คงรูปถาวรและไม่ต้องทำซ้ำ แถมยังปลอดภัยมากขึ้นด้วยเทคโนโลยี Forehead Endoscopic surgery คือการใช้กล้องขนาดเล็กมาช่วยในการผ่าตัด นอกจากจะช่วยลดขนาดแผลให้เล็กลงเหลือแค่ 1-2 ซม แล้วยังทำให้สามารถหลีกเลี่ยงการเสี่ยงที่ส่งผลกระทบต่อเส้นเลือดและเส้นประสาทดังกล่าวได้ดีอีกด้วย
5. ก่อนทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก ควรเตรียมตัวอย่างไร?
ก่อนทำศัลยกรรมหน้าผาก แพทย์จะให้การตรวจเช็คร่างกายก่อนอย่างละเอียดก่อนทำศัลยกรรมและเตรียมตัวเป็นอย่างดี
- ควรงดรับประทานยาในกลุ่มพวกแอสไพรนิน อาหารเสริมวิตามินอี
- หลีกเลี่ยงพฤติกรรมการสูบบุหรี่และการดื่มแอลกอฮอล์ หันมารับประทานอาหารที่มีประโยชน์
- นอนพักผ่อนให้เพียงพอ
6. วิธีดูแลตัวเองหลังทำศัลยกรรมเสริมหน้าผาก
- ผู้ที่ฉีดฟิลเลอร์ ควรดื่มน้ำให้มากๆ เลี่ยงการอยู่ในที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด งดแต่งหน้า 12 ชั่วโมงหลังจากฉีด
- ผู้ที่ฉีดไขมัน หลังจากฉีดแล้วจะมีเพียงแค่รอยเข็มเท่านั้น และมักไม่มีอาการปวดบวมมากเท่าไรนักแต่ทั้งนี้ก็ต้องใช้เวลาในการพักฟื้นอยู่ประมาณ 1 สัปดาห์ เลี่ยงการอยู่ในที่ร้อนจัดหรือเย็นจัด
- ผู้ที่ผ่าตัดเสริมซิลิโคน ในช่วง 1-2 วันแรกที่ผ่าตัด ผู้ป่วยอาจมีอาการปวดบวม แต่สามารถรับประทานยาแก้ปวดเพื่อช่วยบรรเทาอาการได้ และควรใส่ใจรับประทานยาที่แพทย์จัดให้อย่างเคร่งครัดเช่นกัน นอกจากนี้ หากมีอาการบวมภายหลังจากผ่าตัด 1-2 วันแรกแนะนำให้ประคบเย็น แต่หลังจากนั้นเมื่อเข้าสู่วันที่ 3 ก็ให้ประคบร้อน วิธีนี้จะช่วยให้อาการปวดบวมลดลงได้ที่สำคัญคือ ผู้ป่วยจะต้องงดดื่มเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ทุกชนิดเป็นเวลาประมาณ 1 เดือน และควรหลีกเลี่ยงการออกกำลังกายรูปแบบหนักๆเป็นเวลาประมาณ 2-3 เดือน เพื่อช่วยป้องกันไม่ให้เกิดการกระทบกระเทือน เพราะไม่เช่นนั้น อาจจะทำให้หน้าผากผิดรูปทรงได้
7. ผลข้างเคียงหลังจากศัลยกรรมหน้าผาก
การทำศัลยกรรม ล้วนมีความเสี่ยงในการเกิดผลข้างเคียงตามมาเสมอ ซึ่งการทำศัลยกรรมเสริมหน้าผากก็เช่นเดียวกัน สำหรับผลข้างเคียงที่เกิดขึ้นนั้น ส่วนใหญ่มักเกิดอาการปวดบวมช้ำจากแผลผ่าตัด ควรพักฟื้นประมาณ 5-7 วัน อาการเหล่านี้ก็จะค่อยๆ ดีขึ้นและหายไปเองตามลำดับ หากกังวลแนะนำให้พบแพทย์เพื่อทำการปรึกษาและรับการแก้ไขใหม่จะดีที่สุด
8. การทำศัลยกรรมหน้าผากเพื่อเสริมโหงวเฮ้ง
หลายคนมักเชื่อกันว่า ลักษณะหน้าผากที่โหนกนูน มักเป็นหน้าผากของคนโหงวเฮ้งดี มีวาสนาสติปัญญา ทำอะไรก็ประสบความสำเร็จรุ่งเรือง และการได้รับทรัพย์โชคลาภ ควรทำแบบที่ให้ลักษณะความโค้งนูนแบบพอประมาณ โดยจะต้องรับกับจมูกและใบหน้า หากสาวๆ คนไหนสนใจเรื่องโหงวเฮ้งสามารถอ่านเพิ่มได้ที่บทความ เสริมหน้าผากปรับโหงวเฮ้ง ได้เลยค่ะ
Leave a reply