วันนี้เราจะพามารู้จัก Botox แต่ละ ยี่ห้อ ว่ามียี่ห้ออะไร มาจากประเทศไหนบ้าง หลาย ๆ คนที่มีความสนใจในการที่จะฉีดหน้า คงสงสัยกันใช่ไหมว่า จะเลือกฉีดยี่ห้อไหนดี แต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร มีข้อดีข้อเสียอย่างไร ทางเรามีคำตอบแบบเข้าใจง่ายมาให้ค่ะ
1.Botox USA โบท็อกซ์อเมริกา (ยี่ห้อ ALLERGAN)
เป็นโบท็อกซ์ตัวแรกที่มีการนำมาใช้เพื่อความงาม และมีการวิจัยทางการแพทย์สูงสุด จึงมีค่าทางการแพทย์สูงสุด เหมือนกระเป๋าแบรนด์เนมชั้นนำดีดีนี้เอง รวมทั้งเกรดคุณภาพสูงสุด และมีงานวิจัยจากทั่วโลก และยังเป็นที่นิยมใช้กันทั่วโลก มาอย่างยาวนาน
2.Botoxอังกฤษ (ยี่ห้อ Dysport)
เป็นโบท็อกซ์อีก 1 ยี่ห้อที่ได้รับความนิยม เห็นผลรวดเร็ว โดยเฉพาะการใช้ โบท๊อกซ์ (botox) ลิฟติ้งหน้าหรือการทำ dermolift ทำให้หน้ากระชับแบบเร่งด่วน แต่แน่นอนต้องแลกมากับระยะเวลาการอยู่ของ botox(โบท๊อกซ์)สั้นลงตามด้วย
3. Botox GERMANY โบท็อกซ์เยอรมัน (ยี่ห้อ Xeomin )
โบท๊อกซ์(botox) ฝั่งยุโรปก็มาอีกแล้วคะ 1 แบรนด์ซึ่งได้นำเข้ามาใช้ในไทยได้ไม่นานมากนัก โดยจุดขายของเค้าคือ การลดอาการดื้อยาในระยะยาว เพราะมีความบริสุทธ์สูง
4. Botox Korea โบท็อกซ์เกาหลี (ยี่ห้อ NABOTA)
นาโบตะ โบท๊อกซ์จากฝั่งเกาหลี ซึ่งเข้ามาในเมืองไทยนานพอสมควร โดยจุดโดดเด่นหรือจุดขายของแบรนด์นี้คือ จุดเด่นเลยคือการเห็นผลรวดเร็วมาก และยังมีในเรื่องของความบริสุทธิ์ที่สูงถึง Botulinum Toxin Type A มากถึง 98.7% และยังเป็นแบรนด์เดียวของเกาหลี ที่ได้รับ USFDA อยในอเมริกา ก็ค่อนข้างมั่นใจในความปลอดภัยและการเห็นผลที่ดี
5.Botox Korea โบท็อกซ์เกาหลี (ยี่ห้อ Clodew )
โบท็อกซ์แบรนด์ใหม่ล่าสุด จากประเทศเกาหลียกกระชับ ปรับรูปหน้า ลดเลือนริ้วรอย ได้รับ อย.US.FDA ใหม่ล่าสุดจากประเทศเกาหลี … ✔️ CLODEW เป็น Toxin ที่ได้สิทธิบัตรทางเทคโนโลยีในการผลิต จาก US FDA ของอเมริกา
Botoxแต่ละยี่ห้อแตกต่างกันอย่างไร?
Botox มีจุดเด่นแตกต่างกันในแต่ละยี่ห้อ ขึ้นอยู่กับ กรรมวิธีการทำตัวยาให้บริสุทธิ์, ชนิด protein complex, ขนาดของ molecule complex, ความคงทนในการเก็บรักษาขนาดของ molecule complex size คือ คุณสมบัติที่ทำให้โบท็อกแต่ละยี่ห้อเกิดความแตกต่างกันมากที่สุด
Botox allergan เป็นบริษัท original ของ โบท็อก มีงานวิจัยรับรองยาวนานที่สุด กว่า 3,500 งานวิจัย (since 1989) จึงน่าเชื่อถือได้ว่า protein complex ส่วนที่ 1, 2 นี้ผ่านการพัฒนามาเพื่อทำให้โอกาสดื้อโบท็อกน้อยที่สุด และผลการรักษาดีที่สุดเมื่อเทียบกับโบท็อกยี่ห้ออื่นๆโบท็อกอเมริกาจะให้ผลการรักษาที่แม่นยำที่สุด ยากระจายตัวแคบที่สุด หมอจะสามารถคาดคะเนการออกฤทธิ์ของโบท็อกได้แม่นยำ ทำให้ผลลัพธ์ที่ออกมาดีที่สุด
เหมาะกับการฉีดโบท็อก lift ด้วย เทคนิค nefertiti การฉีดโบท็อกอเมริกา เข้ากล้ามเนื้อ เพื่อให้อยู่ได้นาน และผลออกมาดูเป็นธรรมชาตินั้น ต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์สูง มิฉะนั้นจะเกิด คิ้วกระดก ยิ้มแข็ง แก้มตอบ ได้
Dysport จะเน้นการพัฒนาแต่ protein ในส่วนที่ 2 เท่านั้น โดยเชื่อว่า การลด protein ในส่วนที่ 1 จะทำให้โอกาสในการดื้อโบท็อกน้อยลง และช่วยให้โบท็อกในส่วนที่ 3 ออกฤทธิ์ได้ไวขึ้น
จุดเด่นคือ จะทำให้โบท็อกกระจายได้อย่างทั่วถึง ไม่กระจุกเป็นจุดแคบๆ เหมาะกับการฉีดโบท็อกด้วย เทคนิค dermolift เพื่อยกกระชับหน้า สำหรับคนที่ต้องการลดริ้วรอยอย่างเป็นธรรมชาติจะตึงประมาณ50% และเหมาะกับการฉีดลดเหงื่อ ลดกลิ่นตัว ลดต้นแขน ลดน่อง
โบท็อกอังกฤษนั้นมีกระจายตัวกว้าง ทำให้การฉีดต้องอาศัยแพทย์ที่มีประสบการณ์ และความระมัดระวังในการฉีดสูงเนื่องจากการที่ยากระจายตัวกว้าง หากแพทย์ไม่มีความชำนาญมากพอก็จะเพิ่มความเสี่ยงต่อผลข้างเคียงต่างๆ เช่น ตาตก ยิ้มไม่สุด ปากเบี้ยว ได้
Xeomin (โบท็อกเยอรมัน) เน้นพัฒนาโดยเอาข้อดีของ Allergan กับ Dysport มารวมกันโดยคุณสมบัติต่างๆ จะอยู่กึ่งกลางระหว่างอเมริกากับอังกฤษ คือมีความบริสุทธิ์สูงและตัวยาจะไม่กระจุกตัวแคบเกินไป
ทำให้ได้ผลที่ออกมาดูเป็นธรรมชาติ ไม่ตึงเกินไป และยังมีงานวิจัยแสดงว่า Xeomin ได้ผลดีในเคสที่ดื้อยา(โดยที่เคสนั้นๆต้องหยุดการฉีดโบท็อกมาแล้วอย่างน้อย 2-3 ปี)
Nabota botox (โบท็อกเกาหลี) เป็นโบท็อกเกาหลียี่ห้อเดียวที่ผ่านงานวิจัยรับรองจาก อย.อเมริกา U.S.FDA approved (2018)
จุดเด่นอยู่ที่เน้นการพัฒนาให้ออกฤทธิ์ไว จากประสบการณ์ของหมอในการใช้ พบว่ามีการออกฤทธิ์ไวกว่าโบท็อกเกาหลียี่ห้ออื่นเล็กน้อยครับ เหมาะกับคนที่ต้องการผลโบท็อกแบบเร่งด่วน
Botox 1 ขวด มีกี่ยูนิต?
ยูนิต คือ หน่วยปริมาณท็อกซินที่อยู่ในขวดยา โบท็อก 1 ขวด มีหลายขนาด เช่น 50, 100, 200 ยูนิต เป็นต้น ในกรณีซื้อเหมาขวด ต้องตรวจสอบด้วยว่า ราคาเหมาขวด 50 ยูนิต หรือเหมาขวด 100 ยูนิต
Leave a reply